"We use cookies to make your experience better". "To offer a better browsing experience, the website uses technical, analytical, profiling and third party cookies. By selecting "Accept" you consent to the use of all cookies. If you would like to know more or opt out of all or some cookies select "Manage Cookies". Learn more
กระเป๋าแบรนด์เนม 5 รุ่น ที่ถูกตั้งชื่อตามคนดังระดับโลก
กระเป๋าแบรนด์เนม 5 รุ่น ที่ถูกตั้งชื่อตามคนดังระดับโลก ในโลกของแฟชั่นตามสมัยนิยม ที่เหล่าผู้มีชื่อเสียงและเซเลบริตี้ มักมีอิทธิพลต่อเทรนด์แฟชั่นในชีวิตประจำวัน ความสำเร็จสูงสุด ในการเป็นสุดยอดไอคอนแฟชั่น คงไม่พ้นการที่กระเป๋ารุ่นดัง ได้รับเกียรติตั้งชื่อตามบุคคลผู้มีชื่อเสียงเหล่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุด กระเป๋าที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า ถูกตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญในหลากหลายอาชีพ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีที่มาแตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Gucci , Dior หรือ Hermès ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเรื่องของการตั้งชื่อกระเป๋าตามชื่อคนดัง ตั้งแต่เกรซ เคลลี่ (Grace Kelly) เจ้าหญิงแห่งโมนาโค กับกระเป๋า Hermes Kelly หรือ Lady Dior ตาม Lady Diana ไอค่อนแห่งแฟชั่นยุค 90 ผู้ล่วงลับ ในบทความนี้ SF Brandname ขอพาไปรู้จัก กระเป๋าแบรนด์เนม ทั้ง 5 รุ่น ที่ถูกตั้งชื่อตามคนดังผู้มีชื่อเสียง กระเป๋าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าไอคอนผู้เป็นที่ชื่นชอบของโลกแฟชั่น
เปิดตัวครั้งแรกภายใต้ชื่อ "G1244" ในปี ค.ศ. 1961 กระเป๋าทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวนี้ เดิมทีเป็นกระเป๋าแบบ Unisex มันโด่งดังเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันกลายเป็นกระเป๋าใบโปรดของ แจ็กกี้ เคนเนดี อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งชื่นชอบกระเป๋ารุ่นนี้เป็นอย่างมาก และมักพบเห็นเธอ สะพาย G1244 นี้ พร้อมเครื่องประดับหนังคู่กับแว่นตาทรงกระดองเต่าอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
กระเป๋ารุ่นนี้ มีความหมายเหมือนกันกับสไตล์เก๋ไก๋ของเธอหลังจากที่เธอถูกถ่ายรูปโดยใช้กระเป๋าเหล่านี้เป็นเกราะป้องกันปาปารัซซีในยุค 70 ทำให้ Gucci เปลี่ยนชื่อกระเป๋าเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ The Jackie 1961 จึงกลายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและเหล่าคนดัง ซึ่งมันยังคงยืนหยัดอยู่ได้ด้วยการทดสอบของกาลเวลา นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติให้ตั้งชื่อตามเธอได้จาก Kennedy
เครื่องประดับรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวยังคงเป็นภาพเงายอดนิยมและได้รับการนำกลับมาตีความใหม่อีกครั้ง โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci ที่สืบทอดต่อกันมา Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบันของ Gucci ได้รื้อฟื้นผลงานชิ้นสำคัญในคอลเลกชั่นผู้ชายประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2020 ( Fall/Winter 2020 men’s collection) ด้วยการปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของลูกค้ายุคใหม่ Jackie 1961 ที่อัปเดตแล้วพร้อมให้ใช้งานในรูปแบบมินิ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และโทนสีใหม่
Birkin Bag ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ขึ้นชื่อในเรื่องของความยากในการได้ครอบครอง การรอคิวที่เนิ่นนาน และตัวสินค้าที่มีจำนวนจำกัด กระเป๋า Birkin ได้รับการตั้งชื่อตามนักแสดงหญิงชาวอังกฤษ Jane Birkin ซึ่งเรื่องราวของมัน เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1983 บนเที่ยวบินจากปารีสไปลอนดอน จากการพบกันโดยบังเอิญระหว่าง Jean-Louis Dumas อดีตหัวหน้าของ Hermès และ Jane Birkin
Jane Birkin เป็นบุคคลผู้ชื่นชอบกระเป๋าสานเป็นอย่างมาก ในการเดินทางโดยเครื่องบินในครั้งนั้น กระเป๋าสานใบโปรดได้เดินทางไปกับเธอด้วย แต่โชคร้ายที่มันกลับไม่สามารถเข้ากันได้พอดีกับช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ทำให้สิ่งของตกลงมากระจายเกลื่อน Jean-Louis Dumas อยู่ในเหตุการณ์นั้น ทั้งสองลงเอยด้วยการนั่งข้างกันและพูดคุยกันเกี่ยวกับกระเป๋าในอุดมคติของ Birkin
ด้วยคำแนะนำเกี่ยวกับกระเป๋าของ Dumas และความปรารถนาของ Birkin สำหรับกระเป๋าที่สะดวกซึ่งเหมาะกับสิ่งของจำเป็นทั้งหมดของเธอ ทั้งสองจึงร่วมมือกันร่างแบบร่างสำหรับกระเป๋า Birkin อันเป็นสัญลักษณ์ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน โดย Dumas ได้ร่างแบบคร่าว ๆ ลงบนถุงกระดาษสำหรับใส่อาเจียนบนเครื่องบิน และในหนึ่งปีต่อมาคือปี ค.ศ. 1984 Hermes Birkin จึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Lady Dior เป็นต้นแบบของความสง่างามและความเป็นผู้หญิง โดยยังคงเป็นหนึ่งในกระเป๋า Dior ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนถึงปัจจุบันควบคู่ไปกับ Saddle Bag
ตำนานของ Lady Dior เริ่มต้น เมื่อเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1995 เมื่อเจ้าหญิงไดอาน่า เสด็จเยือนกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการต้อนรับอันดีจากสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศสในขณะนั้น ซึ่งเธอได้มอบกระเป๋าที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นเป็นพิเศษ โดย จอห์น กัลลิอาโน (John Galliano) ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ให้กับ House of Dior ในปี ค.ศ. 1995
กระเป๋าใบนี้ ถูกตัดเย็บจากวัสดุหนังแกะสีดำอย่างดีจำนวนทั้งสิ้น 130 ชิ้น ใช้ช่างฝีมือทั้งหมด 7 คน โดยใช้วิธีการเย็บด้วยมือทั้งหมด ลวดลายบนกระเป๋า มีชื่อเรียกว่า “คานนาจ” (Cannage Pattern) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเก้าอี้นโปเลียน ในงานเปิดตัวแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของ Dior เมื่อปี ค.ศ. 1947 มีลักษณะการสานของลายคล้ายกับลวดลายทรงเลขาคณิตแบบซ้อน เป็นผลงานที่สวยหรูไร้ที่ติ นับเป็นงานหัตถศิลป์ขั้นสูง ฝีมือเยี่ยม ยากจะหาใครมาเทียบ
สำหรับลายคานนาจนี้ ช่างฝีมือจะต้องใช้ทักษะขั้นสูงในการตัดเย็บลายทั้งหมดด้วยมือ ซึ่งช่าง 1 คน จะใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงในการเย็บรวมถึงประกอบอะไหล่ของกระเป๋าเข้าด้วยกัน โดยมีอะไหล่เงินทั้งหมดจำนวน 43 ชิ้น ตัวกระเป๋ามาพร้อมกับสายสะพาย มีจุดเด่น คือ อะไหล่คล้ายพวงกุญแจ แสดงตัวอักษร Dior ที่ประดับอยู่ที่หูกระเป๋าสร้างความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งตัวกระเป๋าต้องผ่านกระบวนการตัดเย็บ การขึ้นรูป และการประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดโดยใช้ความละเอียดสูงสุดในทุกขั้นตอน กว่าจะได้มาซึ่งกระเป๋าที่คลาสสิคและสง่างามใบนี้
วันที่ 31 เดือนตุลาคม ในปีเดียวกัน เจ้าหญิงไดอาน่าทรงถือกระเป๋าที่ได้รับมาเป็นครั้งแรก ขณะเสด็จไปเยี่ยมเด็ก ๆ ในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ (BIRMINGHAM, UNITED KINGDOM) ในครั้งนั้นเจ้าหญิง ฉลองพระองค์ด้วยชุดสูทสีขาวดำ ลายฮาวน์สทูธ (Houndstooth) วันนั้นเองกระเป๋าจากแบรนด์ Christian Dior ได้ปรากฏต่อสายตาคนทั้งโลก ซึ่งลุคของเจ้าหญิงไดอาน่าในวันนั้นได้ถูกบันทึกภาพโดยเหล่าปาปารัสซี่ที่คอยติดตาม และไม่นานก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนังสือพิมพ์ รวมทั้งแท็บลอยด์ในวันต่อมา
หลังจากนั้น ในระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 เดือน ภาพของกระเป๋ารุ่นนี้ก็ถูกตีพิมพ์ลงบนสื่อต่าง ๆ มากมายติดต่อกัน ในหลาย ๆ สถานที่ ที่เจ้าหญิงไดอาน่าได้ไปเยี่ยมเยือน ทั้งในประเทศอังกฤษและอาร์เจนตินา ด้วยความที่เจ้าหญิงเปรียบดั่งแฟชั่นไอค่อนในขณะนั้น จึงทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ กลายเป็น Talk of the town ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในทันที
ยอดขายของกระเป๋ารุ่นนี้ พุ่งสูงขึ้นถึง 10 เท่า ตั้งแต่เริ่มมีการจำหน่าย และสามารถสร้างยอดขายสูงสุด 200,000 ใบ ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แม้ว่า Dior จะไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ แต่การเป็นแฟชั่นไอค่อนของเจ้าหญิงไดอาน่า ที่นำพาความสำเร็จโด่งดังมาให้กระเป๋ารุ่นนี้ ทำให้ทาง Chirstian Dior ตั้งชื่อกระเป๋ารุ่นนี้ อย่างเป็นทางการว่า “Lady Dior” เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงไดอาน่า
Hermes Kelly Bag กระเป๋าหรูที่ติดอันดับ Must Have Item ที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันที่จะมีไว้ในครอบครอง เป็นหนึ่งในกระเป๋าหนังที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ เผยโฉมออกสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกเมื่อประมาณ ปี ค.ศ. 1832 แต่ในครั้งนั้นจุดประสงค์ของการผลิตกระเป๋ารุ่นนี้มีเพียงเพื่อใช้สำหรับเก็บอานม้าเท่านั้น
ใน ปี ค.ศ. 1923 เอมีล โมครีซ (Emile-Maurice) และ เอตโตเร่ บูกกาตี (Ettore Buggati) ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโฉมกระเป๋าใบนี้ใหม่ ให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น โดยออกแบบให้กระเป๋ามีความยืดหยุ่น สามารถพับเก็บได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับนักขี่ม้าได้มีโอกาสเก็บอานม้าไว้กับตัวเอง
ต่อมา โครแบร์ ดูมา (Robert Dumas) ผู้บริหารของ Hermès ในรุ่นถัดมา ได้ทำการดัดแปลงโฉมของกระเป๋าอีกครั้ง ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในเริ่มแรกกระเป๋ามีชื่อรุ่นว่า “sac a courroie pour dames” ซึ่งมีความหมายว่า กระเป๋าที่มีสายรัดสำหรับสุภาพสตรี ใน ปี ค.ศ. 1956 Hermès ได้เปิดตัวกระเป๋าถือที่มีชื่อเรียกว่า Sac à dépêches อย่างเป็นทางการ
ต้องขอบคุณอีดิธ เฮดผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เคลลี่ตกหลุมรักกระเป๋า Sac à dépêches จากกองถ่าย To Catch a Thief ของอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก เป็นที่รู้จักจากความเย้ายวนใจและความสง่างามของฮอลลีวูด ต่อมาเมื่อเธอประกาศการหมั้นหมายกับเจ้าชายคู่หมั้นของเจ้าชายแรนีแยร์ (Prince Rainier) แห่งโมนาโค และระหว่างการตั้งครรภ์เธอได้นำกระเป๋ารุ่นนี้ มาปิดบังท้องของเธอไว้เพื่อปิดข่าวการตั้งครรภ์ขณะกำลังถูกถ่ายภาพโดยปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อภาพได้ถูกตีพิมพ์ออกไป กลายเป็นกระแสฮือฮาชั่วข้ามคืน เหล่าสตรีผู้หลงไหลในแฟชั่นต่างพากันมาที่ร้านแอร์เมสพร้อมกับถามหา “Kelly Bag” ทางแบรนด์เห็นโอกาสอันดีในการเปลี่ยนชื่อรุ่นกระเป๋าเพื่อให้รับกับกระแสที่กำลังเป็นนิยมรวมทั้งให้ง่ายต่อการจดจำ ชื่อรุ่น “Hermès Kelly” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยที่มาของชื่อมาจาก เกรซ เคลลี (Grace Kelly) นั่นเอง โดยกระเป๋า ถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ เมื่อปี ค.ศ. 1977
หลังจากความสำเร็จของกระเป๋า Jackie ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ Gucci ได้นำกระเป๋าถือใบโปรดของเจ้าหญิงไดอาน่ากลับมาอีกครั้ง กระเป๋าถือรูปทรงสี่เหลี่ยม มีหูจับไม้ไผ่ซึ่งทำการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1991 ได้รับความนิยมอย่างสูงจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลก กระเป๋ารุ่นนี้ถูกพบเห็นอย่างต่อเนื่องเป็นกระเป๋าคู่กายของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไอคอนแฟชั่นระดับตำนาน ในช่วงยุค 90s
ภาพถ่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ขณะถือกระเป๋ารุ่นนี้ออกจากโรงยิม Chelsea's Harbour สวมเสื้อสเวตเตอร์สำหรับนักศึกษากับกางเกงขาสั้นสำหรับนักขี่จักรยาน ในขณะที่เจ้าหญิงห่างเหินจากราชวงศ์มากขึ้น เจ้าหญิงไดอาน่าก็โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการเลือกสวมใส่แฟชั่นในสไตล์ของเธอ ในขณะที่ละเลยการแต่งกายเป็นทางการของราชวงศ์ แต่ไม่ว่าเจ้าหญิงจะทรงหยิบจับหรือสวมใส่ไอเท่มอะไร ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจ รวมถึงถูกจับตามองจากเหล่าประชาชนและนักข่าวเป็นอย่างมาก
ปัจจุบัน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Alessandro Michele ได้นำความร่วมสมัยมาสู่กระเป๋าถือรุ่นตำนานนี้ โดยตัวกระเป๋ายังคงดีไซน์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน รวมถึงหูจับไม้ไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ มีการเพิ่มโลโก้ตัวปั๊ม GG สีทองด้านหน้า เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นกุชชี่ ซึ่งถูกจินตนาการใหม่โดยมิเคเล่ในยุคปัจจุบัน
โดดเด่นด้วยเข็มขัดหนังคาดหูกระเป๋าสีนีออนสะท้อนแสงหลากสี ซึ่งถูกจับคู่ในกระเป๋าแต่ละใบในเฉดสีที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู หรือสีส้มเรืองแสง อีกทั้งยังสามารถถอดออกได้ รวมถึงยังเลือกสลักตัวอักษรและสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนกระเป๋าได้เพื่อเพิ่มความพิเศษเฉพาะตัวได้อีกด้วย
มรดกตกทอดของผู้หญิงกับแฟชั่น สามารถยกย่องได้หลายวิธี และสำหรับแบรนด์หรูที่ค้นพบแรงบันดาลใจของพวกเขา มักจะมาในรูปแบบกระเป๋าถือที่ทันสมัย กระเป๋าถือหลายรุ่นที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน ต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าผู้มีชื่อเสียงในหลายแวดวง สะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา โดยมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้มีความทันสมัย เหมาะกับแฟชั่นในปัจจุบัน และหลายรุ่น มีการตั้งชื่อตามเซเลปหรือคนดังเหล่านั้น เพื่อเป็นเกียรติและเป็นเพื่อเป็นที่จดจำในฐานะไอค่อนแฟชั่น
SF Brandname ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน กระเป๋าแบรนด์เนม มีขื่อเสียงเหล่านี้ สำหรับท่านใด สนใจซื้อขายแลกเปลี่ยนจำนำกระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ SF Brandname มีบริการครบวงจร พร้อมทีมงานคุณภาพที่พร้อมให้บริการคุณ ด้วยบริการเกี่ยวกับสินค้าแบรนด์เนมครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายแลกเปลี่ยน จำนำ งานซ่อมงานเย็บและงานสปาต่าง ๆ ด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญ
สินค้าจาก SF Brandname มั่นใจได้ถึงคุณภาพและความเป็นของแท้ 100% ด้วบใบการันตีคุณภาพ หากท่านสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : sfbrandname
- Line : @sfbrandnamebkk
- Instragram : sfbrandname
- Tel : 02-821-6444